เผยแพร่เมื่อ:
เขียนโดย Admin

เชียงราย - เปิดเส้นทางการค้า-ท่องเที่ยวบ้านฮวก (ภูซาง) - เมืองคอบ - หลวงพระบางปฐมฤกษ์


     บริษัท พี บี ทราเวล เอเจนซี่ เซ็นเตอร์ จำกัด ร่วมกับ M.K.Steak spa&Senset Cruise in Luang Prabang  นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานบีสคลับประเทศไทยฯลฯ  สมาคมสหพันธ์การท่องเที่ยวภาคเหนือ (สสทน.)โดยนางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ นายก สสทน.จ.เชียงราย  ตัวแทน ททท.สนง.เชียงรายพร้อมทั้งภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องและนักท่องเที่ยวจำนวน 30 ท่าน ได้ร่วมกันเปิดเส้นทางการค้า-การท่องเที่ยวใหม่จากด่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก-กิ่วหก ต.ภูซาง อ.ภูซาง จ.พะเยา เข้าไปยังด่านสากลบ้านปางมอน เมืองคอบ แขวงไซยะบูลี ซึ่งทางการ สปป.ลาว ที่มีการเปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่เมืองมรดกโลกของ  เมืองหลวงพระบาง ของ สปป.ลาว ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ของคณะถือเป็นเที่ยวปฐมฤกษ์ที่ได้ร่วมกันใช้เส้นทางนี้    คณะออกเดินทางจากด่านบ้านฮวก-กิ่วหกด้วยรถยนต์ไปยังด่านสากลปางมอนเป็นระยะทาง 17 กิโลเมตร และจากด่านสากลปางมอนไปยังลงเรือในแม่น้ำโขงบริเวณท่าเรือบ้านหาดงาม เมืองคอบ ระยะทาง 35 กิโลเมตร ก่อนที่คณะจะลงเรือ MK.sunset Cruise เรือสองชั้น ที่สามารถจุคนได้ถึง 90 ท่าน เพื่อทำพิธีต้อนรับและร่วมตัดริบบิ้นเพื่อเป็นสัญญาลักษณ์ถึงความสำเร็จในการร่วมมือจากนั้นเรือ MK.sunset Cruise ได้ล่องไปตามแม่น้ำโขงซึ่งทั้งสองฝั่งของแม่น้ำจะสามารถชมธรรมชาติ, โขดหิน,  วิถีชีวิตชาวลาวที่อาศัยแม่น้ำแห่งนี้ในการอุปโภค บริโภค ประกอบอาชีพประมง ล่อนทองคำอีกด้วย ตลอดเส้นทางมีกาให้รบริการบนเรือมีการให้บริการด้านต่างๆอาทิ ห้องอาหาร ห้องนวด คาราโอเกะ ฯลฯ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7ชั่วโมง จึงถึงเมืองหลวงพระบางตลอดเส้นทางบนเรือนั้นคณะเต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นเพราะจากการล่องเรือถึงแม้ว่าหลายท่านจะเคยใช้เส้นทางนี้มาหลายครั้งแล้วก็ตามทั้งนี้เมื่อระดับน้ำเปลี่ยน ก็จะได้เห็นโขดเห็นรูปร่างแปลกตาโผล่พ้นน้ำขึ้นมาเป็นระยะอีกด้วย  เมื่อถึงเมืองหลวงพระบางก็เป็นเวลาพลบค่ำพอดี คณะได้ท่องเที่ยวเยี่ยมชมตลาดไนท์มาร์เก็ตหลวงพระบาง เพื่อเลือกซื้อของฝาก ผ้าทักทอ ชิมอาหารพื้นถิ่นตามแบบสโลว์ไลฟ์ สไตล์หลวงพระบาง ก่อาฟ้าสางในวันต่อมาคณะได้ร่วมตักบาตรข้าวเหนียว ดื่มกาแฟที่ร้านประชานิยม เที่ยวตลาดเช้า เยี่ยมชมหลวงพระบางที่มีการอนุรักษ์เมืองเก่า พระบรมมหาราชวัง (พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ) วังเจ้ามหาชีวิต  วัดเชียงทอง  น้ำตกตาดกวางสีที่งดงาม ฯลฯ วันที่สามคณะเดินทางกลับด้วยส้นทางสายใหม่ออกจากเมืองหลวงพระบางด้วยการข้ามแม่น้ำโขงด้วยแพขนานยนต์ไปยังฝั่งบ้านเชียงแมนแล้วนั่งรถรถลัดเลาะผ่านแนวเขาไปตามถนนเมืองจอมเพ็ด-หงสา-หมู่บ้านชาวลาวสูงถึงสามแยกนาปุง-เมืองเงิน-เชียงฮ่อน-เมืองคอบ สู่ด่านบ้านฮวกของประเทศไทย รวมระยะทางประมาณ 275 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมงโดยประมาณ

     ด้านท้าวบุนชาด อพิไช ผู้อำนวยการด้านพัฒนาธุรกิจ  M.K.Steak spa&Senset Cruise in Luang Prabang กล่าวว่า ตนเองมีความยินดีอย่างมากในการให้การต้อนรับคณะจากไทยที่มีหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวกับภาคการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวร่วมไปถึงนักท่องเที่ยวได้เดินทางไปกับเรือ MK.sunset Cruise สัญชาติ สปป.ลาว ที่เป็นเรือสองชั้นที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ 90 คน  ซึ่งถือว่าเป็นเรือที่ใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในด้านนันทนาการ ความร่วมมือของสองบริษัทในการเปิดเส้นทางเส้นนี้จะช่วยส่งเสริมด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวแะลเพิ่มรายได้ให้กับทั้งสองประเทศ

       นายสุรนาถ ทวีทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี บี ทราเวล เอเจนซี่ เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่าเส้นทางท่องเที่ยวเส้นนี้ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ด้านการท่องเที่ยวเมืองหลวงพระบางเมืองมรดกโลก ที่จะช่วยลดเวลาการเดินทางจากเส้นทางเชียงของ(ไทย)-ห้วยหราย-หลวงพระบาง ได้ถึง 1 วัน โดยขาออกจากประเทศไทยก็ใช้เส้นทางบ้านฮวก-เมืองคอบ สปป.ลาว ด้วยเรือ ซึ่งตนเองได้ทำสัญญาสัมปทานไว้กับท้าวบุนชาด  เจ้าของเรือไว้ 10 ปี โดยเจ้าของเรือจะดูแลด้านการเดินทางขณะที่บริษัท พี บี ทราเวล เอเจนซี่ เซ็นเตอร์ จำกัด ดูแลการตลาดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยขากลับจะเลือกกลับทางเรือ เส้นทางบกด้วยรถบนถนนสายใหม่ที่สร้างจากเมืองหลวงพระบางมายังจอมเพ็ด-เมืองเงิน ซึ่งจะเลือกแยกข้ามด่านห้วยโก๋น จ.น่าน(ถนนอาร์ 4 บี)ก็ได้ หรือจะเลือกเดินทางต่อมาเส้นเมืองเชียงฮ่อน เมืองคอบ สปป.ลาวและเข้าประเทศไทยที่บ้านฮวก ก็ได้ สำหรับเส้นทางนี้จะได้ชมธรรมชาติ วิถีชีวิตชาวลาว เยี่ยมชมวิหารอายุกว่า 300 ปี ที่วัดศรีมงคล(ศิลปพุกาม) ที่เมืองหงสา ที่ได้ชื่อมาจากกองทัพหงสาของพม่า มาตั้งทัพเพื่อหาข่าวสารและทำศึกและกับอาณาจักรล้านช้างในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช, พระธาตุเชียงลมที่ชาวเมืองเชียงฮ่อนให้การนับถือ โดยพระธาตุแห่งนี้สร้างแบบศิลปล้านนา สร้างในปีพุทธศักราช 1851 อายุ 721 ปี นอกจากนี้นักท่องเที่ยวก็สามารถเลือกเดินทางทางเรือจาก อ.เชียงของ(ไทย)-ห้วยทราย-หลวงพระบางทั้งไปและกลับหรือเลือกเดินทางด้วยสายการบินก็ได้
ซึ่งทางบริษัทได้จัดการท่องเที่ยวไปตามเส้นทางใหม่นี้เดือนละ 4 เที่ยวโดยนักท่องเที่ยวสามารถใช้หนังสือเดินทางระหว่างประเทศหรือพาสปอร์ต บัตรผ่านแดนชั่วคราวหรือบอเดอร์พาสก็ได้ คาดว่าในอนาคตจะมีความคึกคักขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทาง https://pbtravelagency.com/ หรือโทรสอบถามได้ที่ 053-712884

     นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานบีสคลับประเทศไทยฯลฯ  กล่าวว่าการเปิดเส้นทางการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวบ้านฮวก เมืองคอบที่ท่าเรือก้อนตื้น แขวงบ่อแก้วลาวไปยังหลวงพระบาง สปป.ลาวนั้น เป็นการร่วมมือทั้งสองฝ่ายทั้ง สปป.ลาวและประเทศไทย คณะที่เดินทางมามีศักยภาพในการช่วยผลักดันด้านการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวได้ ทั้งเส้รทางนี้ก็สามารถเชื่อมโยงไปยังเส้นทางอื่นได้อีกทั้งเส้นทางใหม่ที่กล่าวมาและถนนเส้นR3B หากสะพานที่ปากแบ่งเสร็จ มาถนนถึงเมืองคอบ ก็จะเป็นเส้นทางสำคัญเส้นที่ 1 จากจ.เชียงราย-ห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว-ไซยบุรี-เมืองคอบ-หลวงพระบางและเส้นทางที่สอง จ.เชียงใหม่-พะเยา บ้านฮวก-เมืองคอบ-หลวงพระบาง เชื่อว่าต่างชาติจะใช้เส้นทางนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนเส้นที่สาม จะเลือกใช้เส้นทางนี้คือเมืองคอบ-หลวงพระบาง-เดียนเบียนฟูของเวียตนามและไปยังเมืองสิบสองปันนาของจีนก็ได้ ตลอดเส้นทางจะเกิดเส้นทางการค้า การท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งตรงกับเป้าหมายของเครือข่ายธุกิจบีสคลับประเทศไทยที่จะเชื่อมโยงจังหวัดต่างๆนำเป้าหมายนี้สู่เส้นทางการค้า การท่องเที่ยวต่อไป 

      นายพัฒนา กล่าวอีกว่า ปัญหาฝนขาดช่วงยาวนานในรอบ 50 ปีทำให้แม่น้ำโขงมีระดับน้ำที่ต่ำแต่ไม่ประสบปัญหาการเดินเรือเพราะเรือ  MK.sunset Cruise เป็นเรือที่กินน้ำตื้นช่วยให้การเดินทางเป็นไปด้วยความสะดวกและปลอดภัย.



 



รมณ ภัทรทองศักดิ์/ ถ่ายภาพ
จักรภัทร แสนภูธร /รายงาน

หนังสือพิมพ์รวมพลัง | รวมพลัง ทีวี

เขียนโดย Admin เวลา 20:16:00. หมวดหมู่ , , . แจ้งข่าวสาร / ร้องทุกข์ หรือต้องการติดต่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ คลิกที่นี่

สนับสนุนข่าวโดย ท่าเรือLCB ฮักเกอร์ Makro paitoon สโมสรโรตารี ไทยออยล์ ปตท. SCG