เผยแพร่เมื่อ:
เขียนโดย Admin
เจ้าท่าชลบุรี ชี้แจงกับชาวบ้าน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กว่า 300 หลังคาเรือน ที่บุกรุกทะเล ให้มาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง
ตาม พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย ฉบับที่ 17 พ.ศ. 2560 ภายใน 22 มิ.ย. นี้ หากพ้นกำหนดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดต่อไป
วันนี้(19 พ.ค.) นายธานี รัตนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา ,พร้อมด้วยนายปรีชา เรืองอร่าม นายกยกเทศมนตรีเมืองศรีราชา ,นายจิร พักกะพาก รองนายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา ,นายสุริยา กิตติมณฑล หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำ ที่ 6 สาขาชลบุรี และนายสุรนาท อ่อนสอาด นักวิชาการขนส่งปฏิบัติการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาชลบุรี ร่วมชี้ชาวบ้านที่มาร่วมรับฟังกว่า 300 คน ที่ศาลาประชาคมอำเภอศรีราชา
นายสุริยา กิตติมณฑล หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำ ที่ 6 สาขาชลบุรี กรมเจ้าท่า กล่าวว่า ในวันนี้กรมเจ้าท่าได้มาชี้แจงและทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กว่า 300 หลังคาเรือน ที่มีบ้านลุกล้ำในทะเล เพื่อให้ทราบแนวทางการปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย ฉบับที่ 17 พ.ศ. 2560 ควบคุมสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำที่ไม่เคยได้รับอนุญาต และปลูกสร้างไม่เป็นตามรูปแบบที่ได้รับอนุญาต มีผลตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป
โดยเจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ ต้องแจ้งต่อกรมเจ้าท่า ตามแบบที่กรมเจ้าท่ากำหนด เช่น บ้านหลังดังกล่าว มีขนาดกว้างและยาวเท่าไร ลักษณะเป็นแบบไหน โดยให้ดำเนินการภายในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ หลังจากนั้นกรมเจ้าท่าจะแจ้งให้ทราบว่า ออกใบอนุญาตให้ได้ หรือให้ทำการรื้อถอนภายใน 60 วันนับแต่วันที่ได้รับแบบการแจ้ง ส่วนที่ได้รับอนุญาตเจ้าของจะต้องเสียค่าตอบแทนท้องถิ่นในราคา ตารางเมตรละ 100 บาทต่อปี
นายสุริยา กล่าวต่อไปว่า สำหรับพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว มีสาระสำคัญ คือ มีเจตนารมณ์เพื่อควบคุมการปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดลงไปในแม่น้ำ ลำคลอง ทะเล ชายหาดสาธารณประโยชน์ เพื่อประโยชน์ในการรักษาลำน้ำ และควบคุมให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
สำหรับในช่วงนี้ ห้ามเจ้าของหรือผู้ครอบครองดำเนินการซ่อมแซม ต่อเติมอาคารบ้านพักอย่างเด็ดขาด ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าทางรัฐบาลจะนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่บุกรุกพื้นที่นั้น ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องเอกสารหลักฐาน ซึ่งหากมีนิรโทษกรรมจริงจะต้องมีการประชุมหารือกันอีกครั้ง เพื่อกำหนดรูปแบบการนิรโทษกรรมแบบไหนอย่างไรต่อไป
ด้านนายสุรนาท อ่อนสอาด นักวิชาการขนส่งปฏิบัติการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาชลบุรี กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดลงไปในทะเล ไม่ไปดำเนินการภายในวันที่ 22 มิถุนายน นี้ จะถูกดำเนินการโดยให้ทำการรื้อถอน หรือแก้ไขสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำนั้น ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี แต่ไม่น้อยกว่า 30 วัน หากมีการดำเนินคดีจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับคำนวณเป็นตารางเมตรของพื้นที่ที่ล่วงล้ำลำน้ำ ในอัตราตารางเมตรละไม่น้อยกว่า 1,000 บาท แต่ไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้จะต้องถูกปรับเป็นรายวันวันละไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ให้ทำการรื้อถอนหรือแก้ไขจนกว่าจะมีการปฏิบัติตามคำสั่งแล้วเสร็จ
นายจตุรงค์ ศักดิ์เจริญ ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนล่วงล้ำในทะเล กล่าวว่า ในวันนี้ มารับฟังคำชี้แจงจากกรมเจ้าท่า เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยขณะนี้เตรียมยื่นเอกสารหลักฐานให้กรมเจ้าท่า เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านไม่ทราบขั้นตอนในการดำเนินการ จึงมาฟังคำชี้แจงในครั้งนี้และเตรียมไปดำเนินการทันที เพื่อไม่ให้มีปัญหาอุปสรรคในภายหลัง
โจ ลำน้ำปิง/รายงาน