เผยแพร่เมื่อ:
เขียนโดย Admin

ชลบุรี - ท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมกับ ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เปิดประตู 3 ระบายตู้คอนเทนเนอร์เปล่า แก้ปัญหาจราจรติดขัด

ที่ ประตูตรวจสอบ 3 ท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เรือเอกกานต์ เมนะรุจิ รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วยนายสุรเดช ตรงศิริวิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และนายธีรวิทย์ ต่างสี นายกสมาคมโลจิสติกส์ อีอีซี. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการเปิดประตูตรวจสอบ 3o (สามโอ) ของท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อระบายรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เปล่า ออกจากท่าเรือแหลมฉบัง
เนื่องมาจากที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ในชั่วโมงเร่งด่วน ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดภายในท่าเรือฯ และบนถนนสุขุมวิท นอกจากนี้ยังมีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกัน ดังนั้นในวันนี้ท่าเรือแหลมฉบังพร้อมสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และผู้ประกอบการขนส่งได้ร่วมกันตัดสินใจเปิดประตู 3o ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อระบายรถเปล่าออกทางด้านหลัง ช่วยย่นระยะทางและประหยัดเชื้อเพลิง
เรือเอกกานต์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา มีปัญหาเรื่องรถติด บนถนนสุขุมวิทและในท่าเรือแหลมฉบังในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ในพื้นที่ตัวเมืองศรีราชา เนื่องจากมีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ จำนวนมากใช้เส้นทางดังกล่าว จึงได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมวางแนวทางระบายรถชนิดต่างๆ ที่ผ่านมาทางสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ต้องมีการตรวจสอบและควบคุมรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ไม่ให้มีการกระทำความผิด จึงทำให้เสียเวลาในการตรวจสอบ จึงได้ตัดสินใจเปิดประตู 3o ท่าเรือแหลมฉบัง ให้รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เปล่าวิ่งออกไป เชื่อว่าจะทำให้ลดปัญหาการจราจรได้มาก

ด้านนายสุรเดช กล่าวว่า การดำเนินกานดังกล่าว เชื่อว่าน่าจะลดปัญหาการจราจรได้อย่างแน่นอน ถือเป็นแนวทางในการช่วยระบายรถ และเป็นนโยบายของรัฐบาลด้วย โดยขอระยะเวลาในการประเมินผลงาน 3 เดือน หากเปิดประตู 3o ท่าเรือแหลมฉบังแล้ว และสามารถระบายรถได้เป็นอย่างดี และไม่มีปัญหาอุปสรรคใดๆอีก ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือดำเนินโครงการอื่นๆต่อไป
ขณะที่นายธีรวิทย์ กล่าวว่าการตัดสินใจเปิดประตู 3 ท่าเรือแหลมฉบัง ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ในการระบายรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เปล่า วันละประมาณ 400-500 ใบ ไม่ให้ไปเส้นทางถนนสุขุมวิท ประกอบกับเส้นทางประตู 3o ใกล้ลานจอดรถตู้คอนเทนเนอร์ระยะทางประมาณ 2-3 กิโลเมตรเท่านั้น หากไปเส้นทางปกติจะใช้ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ทำให้เสียเวลาและสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย และเป็นเรื่องที่ดีทำให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ลดค่าใช้จ่าย ลดการเสียเวลา ลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดการบาดเจ็บ และเสียชีวิตได้อีกด้วย
“ต้องขอบคุณท่าเรือแหลมฉบังและสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ที่มองเห็นความเดือดร้อนของผู้ประกอบการและประชาชน ที่ใช้เส้นทางดังกล่าว โดยได้ร่วมกันในการแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกดังกล่าว และหวังว่าในอนาคตจะมีโครงการเปิดประตูอื่นๆตามมาอีกด้วย” นายธีรวิทย์ กล่าว



โจ ลำน้ำปิง/รายงาน

หนังสือพิมพ์รวมพลัง | รวมพลัง ทีวี

เขียนโดย Admin เวลา 18:59:00. หมวดหมู่ , , , . แจ้งข่าวสาร / ร้องทุกข์ หรือต้องการติดต่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ คลิกที่นี่

สนับสนุนข่าวโดย ท่าเรือLCB ฮักเกอร์ Makro paitoon สโมสรโรตารี ไทยออยล์ ปตท. SCG