เผยแพร่เมื่อ:
เขียนโดย Admin

ชลบุรี - บ.ยูนิไทย ฯ ทุ่มงบนับ 1,000 ล้าน ขยายท่าเทียบเรือ เพื่อรองรับเรือขนาดใหญ่ขึ้น



ยูนิไทยฯ ทุ่มงบนับพันล้าน ขยายท่าเทียบเรือ จำนวน 2 ท่า บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง ขนาดความยาว 314 เมตร และ 400 เมตร เพื่อรองรับเรือขนาดใหญ่และเรือมาจอดซ่อมเพิ่มขึ้น คาดจะใช้เวลาในการก่อสร้าง 4-5 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ประมาณ ปี 2567-2568  ทั้งนี้ตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่ากระบวนการ EHIA เสร็จสิ้นสมบูรณ์ภายในปี2563


นายกฤศณัฏฐ์ กุลสิงห์ ปลัดอำเภอศรีราชา เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 เพื่อกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม การศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการที่อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย คุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนอย่างรุนแรง (EHIA) โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือ ของ บริษัท ยูนิไทย ชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด ณ ห้องประชุมเมืองท่า สำนักงานเทศบาลนครแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยมีตัวแทนบริษัท ยูนิไทย ชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง จำกัดตัวแทนบริษัท เซ้าท์อีสท์เอเชียเทคโนโลยี่ จำกัด (บริษัทที่ปรึกษา) พร้อมผู้นำชุมชน และชาวบ้าน เกือบ 500 คน เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

นายสมชัย เปลี่ยนใจสุข ผู้จัดการอาวุโสแผนกอาชีวอนามัยและความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม บริษัท ยูนิไทย ชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 เพื่อกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ข้อมูลกับประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับรายละเอียดโครงการที่จะเกิดขึ้นและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งขอบเขตการศึกษาและการประเมินทางเลือกของโครงการ รวมทั้งจะนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในครั้งนี้ใช้ประกอบการศึกษา และจัดทำรายงานให้ครบถ้วนต่อไป

สำหรับโครงการในครั้งนี้ ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือที่ 1 มีขนาดความยาว 314 เมตร กว้าง 21 เมตร จะก่อสร้างต่อจากแนวเขื่อนเทียบเรือเดิมของบริษัทฯ ไปจนสุดปลายของพื้นที่โครงการ เพื่อ โดยจะสามารถรองรับเรือที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และรองรับเรือที่จะมาจอดซ่อมเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยจะใช้งบประมาณในการก่อสร้างนับพันล้านบาท ระยะเวลาในการก่อสร้าง 4-5 ปี คาดจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ประมาณปี 2567-2568 ทั้งนี้ตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่ากระบวนการ EHIA เสร็จสิ้นสมบูรณ์ภายในปี 2563

นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับข้อเสนอแนะต่างๆของผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตรนั้น โดยส่วนใหญ่มีความเป็นห่วงด้านสิ่งแวดล้อมที่จะส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเล แพลงตอน และพืชด้านผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในช่วงการก่อสร้าง และชาวบ้านในพื้นที่ต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการ เช่น รับเหมาถมดินทำงาน และให้บริการทางเรือ โดยข้อเสนอต่างๆ นั้น ทางบริษัทฯ พร้อมรับไว้และเตรียมบรรจุไว้ในแผนงาน เพื่อดำเนินการตามความต้องการต่อไป








โจ ลำน้ำปิง/รายงาน

หนังสือพิมพ์รวมพลัง | รวมพลัง ทีวี

เขียนโดย Admin เวลา 19:08:00. หมวดหมู่ , , . แจ้งข่าวสาร / ร้องทุกข์ หรือต้องการติดต่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ คลิกที่นี่

สนับสนุนข่าวโดย ท่าเรือLCB ฮักเกอร์ Makro paitoon สโมสรโรตารี ไทยออยล์ ปตท. SCG