เผยแพร่เมื่อ:
เขียนโดย Admin
Esso ศรีราชา จัดโครงการรณรงค์ “เสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100%” ครั้งที่ 2
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2560 ที่สวนสาธารณะเทศบาลศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายธานี รัตนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา นายนุกิจ ชลคุป ผู้จัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย คุณอิศรา สุนทรวิภาต ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ และ คุณทิพสุคนธ์ ดวงทิพย์ ผู้จัดการประชาสัมพันธ์และบริหารสำนักงาน บริษัท เอสโซ่ฯ
สำหรับเอสโซ่ ความปลอดภัยถือเป็นแก่นของวัฒนธรรมองค์กรอย่างแท้จริง ซึ่งบริษัทในเครือเอ็กซอนโมบิลทั่วโลก รวมถึงเอสโซ่ในประเทศไทย ได้ตั้งเป้าไว้ว่า “จะต้องไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ” จากการทำงาน นอกจากนี้ เรายังได้พยายามส่งเสริมเรื่องความปลอดภัยในชุมชนที่เราปฏิบัติงานอยู่ ซึ่งประเด็นเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน เป็นประเด็นที่มักก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อทั้งพนักงานและชุมชนต่างๆ เอสโซ่จึงได้ริเริ่มโครงการรณรงค์ “เสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100%” เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในชุมชน
โครงการดังกล่าว เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กับ สมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทย โดยได้จัดการฝึกอบรมเกี่ยวกับกฎจราจรและการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย จัดขบวนรณรงค์การสวมหมวกนิรภัย รวมถึงมอบหมวกกันน็อกที่ได้มาตรฐานให้แก่ชุมชนที่ผ่านการอบรมในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
สำหรับพิธิเปิดงานโครงการรณรงค์ “เสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100%” ครั้งที่ 2 ณ สวนสุขภาพเกาะลอย เทศบาลเมืองศรีราชา ได้รับเกียรติจาก
นายธานี เผยว่า “รัฐบาลได้จัดความสำคัญของปัญหาเรื่องความปลอดภัยทางถนนไว้ในลำดับต้นๆ โดยกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมกับรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100% อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดวัฒนธรรมความปลอดภัยในขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ วันนี้ นับเป็นนิมิตรหมายอันดีที่ภาคเอกชนเล็งเห็นถึงความสำคัญต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างจริงจัง”
นายนุกิจ เสริมว่า “สำหรับพิธีเปิดโครงการในวันนี้ เอสโซ่ มีวัตถุประสงค์ที่จะให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ได้เรียนรู้ถึงกฎจราจร และความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัย 100% เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในเขตเทศบาลเมืองศรีราชาให้เป็นที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้น”
โจ ลำน้ำปิง/รายงาน