เผยแพร่เมื่อ:
เขียนโดย Admin
อากาศแปรปรวนร้อนจัด กระทบเลี้ยงไก่ไข่ ผลผลิตลดเท่าตัว เครือฉวีวรรณ แนะฉีดพ่นน้ำตามโรงเรือนเลี้ยงไก่
นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมถ์ ย้ำเกษตรกรต้องฉีดพ่นน้ำลดอุณภูมิให้เย็นลง หากร้อนอบอ้าวไก่เสี่ยงติดเชื้อป่วยตาย
ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมถ์ เปิดเผยว่าจากสภาพอากาศยังแปรปรวน ร้อนอบอ้าว รวมกับสถานการณ์ภัยแล้งยังส่งผลกระทบต่อเนื่อง ทำให้สภาพอากาศร้อนจัด ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส
สภาพอากาศดังกล่าวไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่เท่านั้น ยังส่งผลกระทบต่อเกษตรกรเลี้ยงไก่ไข่ในพื้นที่ ทั่วประเทศ สภาพอากาศร้อนอบอ้าวอาจ ได้ส่งผลกระทบต่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ไม่กินอาหารออกไข่น้อยลงเกือบเท่าตัว อีกทั่งยังดูแลยากจะต้องมีการฉีดพ่นน้ำตามโรงเรือนวันละ 2-3 รอบ และต้องคอยหมั่นตรวจสอบดูแลให้อาหาร และน้ำบ่อยขึ้น เนื่องจากอากาศร้อนจัด ทำให้ไก่เกิดความเครียด ออกไข่น้อย บางตัวติดเชื้อป่วยตาย ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ลดลงเท่าตัว ซึ่งปัจจุบันจากปกติไข่จะมีจำนวน 5 ขนาด คือ เบอร์ 0 ใหญ่สุด ไปถึงเบอร์ 5 เล็กสุด แต่ในช่วงอากาศร้อน ส่วนใหญ่ไข่จะมีแต่ขนาดเบอร์ 3-4-5 เท่านั้น ทำให้ขายได้ราคาลดลง
ดร.ฉวีวรรณ คำพา กล่าวว่า ในช่วงสภาพอากาศแปรปรวนร้อนอบอ้าว ได้กำชับให้เกษตรกรทำการฉีดพ่นน้ำตามโรงเรือนเลี้ยงไก่ และหลังคาโรงเรือนเพื่อเป็นการลดความร้อนให้ไก่ไข่อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ซึ่งผลกระทบจากอากาศแปรปรวน และอากาศร้อนอบอ้าว นอกจากจะทำให้เสี่ยงต่อไก่มีอาการป่วยตาย ยังทำให้ผลผลิตไข่ไก่ตามฟาร์มต่างๆ ลดลงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์
ทั้งยังทำให้ขนาดไข่ไก่มีขนาดเล็กลงกว่าปกติด้วย เกษตรกร ควรตรวจสอบดูแลอย่างต่อเนื่อง พร้อมป้องกันไข้หวัดนกต้องมีการเพิ่มมาตรการดูแลเข้มงวด ทั้งนี้ สภาพอากาศร้อนมีกระทบกับความเป็นอยู่ของไก่เป็นอย่างมาก แม้ว่าปัจจุบันการเลี้ยงไก่ส่วนใหญ่จะอยู่ภายในโรงเรือนปิดปรับอากาศ หรืออีแวป ก็ตาม แต่อากาศที่ร้อนจัดอุณหภูมิภายนอกสูงกว่า 40 องศาในปัจจุบัน ทำให้ประสิทธิภาพของระบบทำความเย็นในโรงเรือนลดลง ขณะเดียวกัน ระบบทำความเย็นที่จำเป็นต้องใช้น้ำหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลาทำให้เกษตรกรหลายพื้นที่ที่ยังประสบปัญหาภัยแล้งต้องซื้อน้ำมาใช้ เป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โจ ลำน้ำปิง/รายงาน