วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 12.42 น.นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอเมืองชุมพร รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 12 ตำบลบางลึก ส่งภาพถ่าย กวาง ขวิดและชนกันตาย ทั้งคู่ ณ บริเวณพื้นที่หนองใหญ่ จึงมอบหมายให้ นายสัตวแพทย์ พิชัย โพธิ์กระสังข์หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพร ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมนายภิทูณ พลชนา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 12 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร นำคณะสื่อมวลชนประมาณ 10 คน ลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีกวางเสียชีวิต จำนวน 2 ตัว

    นายพิชัย โพธิ์กระสังข์ กล่าวว่า ในช่วงต้นของฤดูผสมพันธุ์หลังจากนั้นกวางตัวผู้เหล่านี้ก็จะไม่กินอาหารใด ๆ เลย และจะต่อสู้กันเองเพื่อความเป็นใหญ่แต่ผู้เดียว คุมฝูงตัวเมียผสมพันธุ์จนหมดฤดูผสมพันธุ์ไปในประมาณฤดูหนาว และโดยที่ระยะเวลาเป็นสัดของกวางตัวเมียมีเพียง 3 - 4 ชั่วโมงเท่านั้นกวางตัวผู้จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาจนกว่าจะผสมพันธุ์เสร็จจึงค่อยติดตามตัวอื่นในฝูงต่อไป ด้วยเหตุนี้จึงเป็นกฎธรรมชาติที่สัตว์ตัวที่แข็งแรงกว่าเท่านั้นจะสามารถสืบพันธุ์และดำรงสืบสานต่อไปได้ กวางตัวเมียจะตั้งท้องประมาณ 8 เดือน และออกลูก 1 ตัวเป็นส่วนใหญ่ การออกลูก 2 ตัวนั้นมีความเป็นไปได้น้อยมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกวางในเมืองร้อน แต่หากเป็นเมืองหนาวแล้ว มีโอกาสได้ลูก 2 ตัวสูงกว่า  ในกรณีดังกล่าว เป็นการต่อสู้กันเองเพื่อความเป็นใหญ่แต่ผู้เดียว เพื่อคุมฝูงตัวเมียผสมพันธุ์ และผลการตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตมาอย่างน้อง 2 อาทิตย์ แล้ว และทำการฉีดยาฆ่าเชื้อป้องกันโรคระบาดต่อไป  และแนะนำให้ฝังกบและควรขุดให้ลึก 2-3 เมตร กรณีพื้นที่หนองใหญ่มีน้ำล้อมรอบ ไม่มีเครื่องจักรเข้ามาขุดได้ก็ต้องใช้วิธี เผาทำลาย โดยให้ปลอดภัยและไม่ให้ไฟลุกลามไปติดพื้นที่ป่าต่อไป

     สื่อมวลชนซักถามถึงกรณีที่มีการตายของกวางทีผ่านๆมาเกิดจากสาเหตุใด    นายพิชัย โพธิ์กระสังข์ เปิดเผยว่า ได้มาตรวจสอบทุกครั้ง และได้การผ่าชันสูตรซากสัตว์และการเก็บตัวอย่าง พบว่าเป็นรูที่เกิดจากของมีคมลักษณะแหลมแทงทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดและชำเป็นแผลใหญ่ไม่ใช้เกิดจากรูกระสุนปืนอย่างที่ประชาชนกล่าวอ้าง และรับรองว่าที่มีการเสียชีวิตของกวางในพื้นที่นองใหญ่ที่ผ่านมาไม่มีการถูกยิงจากอาวุธปืนแต่อย่างใด

ภุชงค์ ทองมี(นะ ชุมพร) ศูนย์ข่าวชุมพร/รายงาน