เผยแพร่เมื่อ:
เขียนโดย Admin
นิคมฯแหลมฉบัง แอ่นอกรับผิดชอบแทน หลัง รง.ปล่อยน้ำเสียลงคลองแหลมฉบัง ปฏิเสธความรับผิดชอบ
นิคมฯแหลมฉบังรับผิดชอบแทน หลังจาก บ.ศรีไทย อะโกร ปล่อยน้ำเสียลงคลองแหลมฉบัง จนทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย พร้อมดำเนินการแก้ไข้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการขุดลอกคลอง และร่วมกับทุกหน่วยงานแก้ไขปัญหาในระยะยาวร่วมกัน ส่วนโรงงานต้นเหตุสั่งปิดกิจการทันที
นายจักรพงษ์ รัชนีกุล ปลัดอาวุโสอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ตัวแทนนายนิติ วิวัฒน์วานิช นายอำเภอศรีราชา เป็นประธานในการประชุมชี้แจง แก้ไข ปัญหาน้ำในคลองสาธารณะแหลมฉบังเน่าเสีย จากเหตุโรงงาน บริษัทศรีไทย อะโกร จำกัด ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ชำระล้างน้ำเสียจนไหลลงสู่ลำรางน้ำฝนของนิคมฯ ก่อนจะไหลลงสู่คลองสาธารณะ โดยมีนายมานิต อินเมฆ ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง นายสันติ ศิริตันหยง รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง ตัวแทนจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี และชาวบ้านแหลมฉบังเข้าร่วม
ด้านนายมานิต อินเมฆ ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง กล่าวว่า ต้องขอโทษ ชาวบ้านแหลมฉบัง ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ก่อน แม้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังหรือไม่ แต่ที่ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็จะร่วมแก้ไขปัญหาไปด้วยกัน โดยในระยะเร่งด่วน นิคมฯ จะปล่อยน้ำที่ได้รับการบำบัดแล้วลงสู่คลองสาธารณะก่อน
รวมทั้งเตรียมรถแบ็คโฮไว้เพื่อจะทำการขุดลอกคลองสาธารณะแห่งนี้ได้เลยทันทีที่ต้องการ แต่ต้องมีการปรึกษาหารือกันก่อนว่าจะไปมีผลกระทบกับส่วนอื่น ๆ หรือไม่ ถ้าไม่มีก็สามารถปฏิบัติการได้เลยทันที ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ก็จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุง สร้างเสริม เพื่อการอนุรักษ์ป่าชายเลนแหลมฉบังให้มีความยั่งยืนต่อไป
สำหรับทางด้านบริษัทศรีไทย อะโกร นั้นทางนิคมฯ ก็ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้บริหารแล้ว โดยทางบริษัทมีการดำเนินการแก้ไขใดๆ และปฏิเสธความรับผิดชอบ ทางการนิคมจึงได้ดำเนินการตามขั้นตอน ขณะเดียวกันทางบริษัทขอปิดกิจการ และย้ายออกไปในทันที ซึ่งทางนิคมฯก็ไม่มีปัญหาตรงจุดนี้ เนื่องจากโรงงานนี้เป็นโรงงานเล็ก ๆ มีพนักงานเพียงไม่มีกี่คน
ด้านนายอัมพร คชรัตน์ ประธานชุมชนแหลมฉบัง กล่าวว่า จากการหาร่วมกันในครั้งนี้พวกเราชาวบ้านพอในระดับหนึ่งเท่านั้น คือพวกเราก็ไม่ได้จะใจร้ายอะไร เพียงแต่ขอให้มีการพูดคุยกันดี ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก ทั้งที่เห็นหลักฐานชัดเจนว่าบริษัทศรีไทน อะโกร ได้มีการปล่อยน้ำเสียคลองสาธารณะอยู่แล้ว ด้าน การนิคมฯ ก็ยังไม่ยอมรับเสียทีเดี่ยวว่าตนเอง ซึ่งหมายถึงเจ้าของบ้านทำผิดอยู่ แต่ก็ขอบคุณที่จะไม่ยอมรับ 100 % แต่ก็ยอมรับว่าที่จะแก้ไขปัญหา
ซึ่งจากการตรวจสอบน้ำในคลองสาธารณะแหลมฉบังล่าสุดในวันนี้น้ำเริ่มเข้าสู่สภาพปกติแล้ว ประมาณ 80 % แต่ยังมีกลิ่นเหม็น และยังเหลือคราบเลนดำ ๆ ที่เกาะอยู่ตามรากไม้ และพื้นคลองอยู่บ้าง แต่ก็ยังต้องมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำอยู่เป็นระยะ ๆ ต่อไป ซึ่งหลังจากนี้จะขอให้มีการติดตามผลทุกระยะ พร้อมทั้งให้ มีการขึ้นป้ายบอกคุณภาพน้ำในลำคลองอย่างต่อเนื่อง แต่หากหลังจากนี้ ยังมีเหตุการณ์ เช่นนี้เกิดขึ้นมาอีกการนิคมฯ กับพวกเราคงอยู่ร่วมกันไม่ได้แล้ว
ขณะที่นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า วิธีการผลักดันน้ำดีเพื่อให้ชะล้าง สิ่งตกค้างในลำคลองที่เน่าเหม็นนั้นไม่ใช่วิธีถูกต้อง หากนำในลำคลองมีไม่มากนักควรที่จะใช้วิธีการบล็อกน้ำเป็นช่วงๆแล้วดูดน้ำที่เน่าเสียออกไปบำบัดแทนการการผลักดันน้ำลงทะเล เพราะจะเป็นการแก้ปัญหาอีกจุดหนึ่ง แต่ไปสร้างปัญหาให้กับอีกจุดหนึ่งคือชายฝั่งทะเล และมีปัญหากับประมงชายฝั่งอาจจะทำให้เสี่ยงที่จะทำให้เกิดแพลงก์ตอนบูมได้