เผยแพร่เมื่อ:
เขียนโดย Admin
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว แถลงข่าว “ความสำเร็จในการผสมเทียมช้างไทยตัวที่ 2 ของประเทศไทย”
เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายสุริยา แสงพงค์ รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ฯ นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว น.สพ.รศ.ดร.นิกร ทองทิพย์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้แทนสถาบันคชบาลแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวถึงความสำเร็จการผสมเทียมช้างไทยตัวที่ 2 ของประเทศไทย
โดยนายสุริยา แสงพงค์ รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ กล่าวว่า องค์การสวนสัตว์ ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจหลักด้านการอนุรักษ์และวิจัย จึงเล็งเห็นความสำคัญต่อการอนุรักษ์ช้าง โดยความร่วมมือระหว่าง องค์การสวนสัตว์ โดย สวนสัตว์เปิดเขาเขียว, ศูนย์นวัตกรรมทางการสืบพันธุ์สัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์และวิจัย ร่วมกับ คณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ ภายใต้การดูแลขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ได้ร่วมกันดำเนินงานโครงการวิจัยเรื่อง“ปัจจัยที่มีผลต่อวงรอบการสืบพันธุ์และการพัฒนาวิธีการแช่แข็งน้ำเชื้อช้างเพื่อการผสมเทียม” โดยงบประมาณส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และอีกส่วนหนึ่งได้จากงบประมาณขององค์การสวนสัตว์ ที่ได้ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2559 จนกระทั่งประสบความสำเร็จในช่วงปลายปี 2561 ที่ผ่านมา สามารถผสมเทียมช้าง จนได้ลูกช้าง เพศเมีย 1 เชือก เกิดจากช้างเพศเมีย ชื่อ “จิ๋ม” ซึ่งได้ตกลูกช้างในวันที่ 8 ตุลาคม 2561 เวลา 19.50 น. น้ำหนัก 128 กิโลกรัม มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรงทั้งแม่และลูก มีระยะการตั้งท้อง 21 เดือน 12 วัน และ ได้รับการบันทึกว่าเป็นลูกช้างที่เกิดจากการผสมเทียมที่มีชีวิตรอด เป็นเชือกที่ 2 ของประเทศไทย โดยความร่วมมือจาก ทั้งสามหน่วยงาน ได้แก่ องค์การสวนสัตว์ คณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ ภายใต้การดูแลขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ปัจจุบัน ลูกช้างมีอายุ 3 เดือน 16 วัน มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง นิสัยร่าเริง และซุกซน
สำหรับการร่วมดำเนินงานโครงการวิจัยดังกล่าว ทีมงานวิจัยขององค์การสวนสัตว์ (สวนสัตว์เปิดเขาเขียวและสำนักอนุรักษ์และวิจัย) ได้ร่วมกันทำการทดสอบการผสมเทียมในช้างเพศเมีย จำนวน 4 เชือก คือ พังจิ๋ม จากสวนสัตว์ดุสิต, พังจิ๋ม เขาเขียว พังจันทร์เพ็ญ และ พังกอบทอง จากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว โดยเริ่มกันตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 (ระหว่างวันที่ 26-28 ธันวาคม 2559) คณะวิจัยได้ทำการตรวจประเมินระดับฮอร์โมน พบว่า มีช่วงการตกไข่ในวันดังกล่าว จึงทำการเก็บน้ำเชื้อช้างเอเชีย เพศผู้ ชื่อ “พลายบิลลี่” เพื่อผสมเทียมกับช้างเอเชียเพศเมีย ชื่อ “พังจิ๋ม” จากสวนสัตว์เปิดเขียว 3 วันติดต่อกัน (วันก่อนตกไข่ วันที่ตกไข่ และหลังการตกไข่ 1 วัน) และผสมเทียมด้วยน้ำเชื้อแช่แข็งและน้ำเชื้อ แช่เย็น โดยการใช้กล้องเอนโดสโคป (endoscope) ขนาดความยาว 1.3 เมตร สอดผ่านทางช่องคลอด และน้ำเชื้อใช้กระบอกฉีดยา ขนาด 50 มิลิลิตร เป็นตัวฉีดน้ำเชื้อเข้าท่อผสมเทียมชนิดพิเศษที่สอดผ่าน working channel ของกล้องเอนโดสโคป ปล่อยบริเวณช่องเปิดคอมดลูก (cervix) จนนำมาสู่ความสำเร็จ ที่น่าภาคภูมิใจที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 038-318444
หนังสือพิมพ์รวมพลัง ศูนย์ข่าวชลบุรี/รายงาน