เผยแพร่เมื่อ:
เขียนโดย Admin

ไทยออยล์แสดงศักยภาพเติบโตอย่างยั่งยืน เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงงานผลิตสาร LAB และโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก 2 โครงการอย่างเป็นทางการ


วันนี้(3 ส.ค.59) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายน้ำมันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แสดงศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงงานผลิตสาร LAB และโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก TOP SPP 2 โครงการอย่างเป็นทางการ โดยโครงการผลิตสาร LAB จัดเป็นโครงการใหญ่ระดับชาติโครงการหนึ่งระหว่างไทยและญี่ปุ่นของปีนี้ ซึ่งจะทำให้เกิดการสร้างงานและเศรษฐกิจโดยรวมขยายตัว รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้มากขึ้น เพื่อรองรับการเข้าเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC 

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) โดยนายคุรุจิต นาครทรรพ ประธานกรรมการ เป็นประธานในพิธีเปิดโรงงานผลิตสาร LAB ของบริษัท ลาบิกซ์ จำกัด และโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก 2 โครงการ ของบริษัท ท็อป เอสพีพี จำกัด โดยมีผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมพิธี อาทิ นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จีดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) นายทาคุ โมริโมโตะ กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัจิการ กลุ่มธุรกิจเพอฟอร์แมนซ์แมททีเรียล บริษัท มิตซุยแอนด์คัมปนี จำกัด นายสุชาติ มัณยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลาบิกซ์ จำกัด และนายชาลี บาลมงคล กรนมการผู้จัดการ บริษัท เอสพีพี จำกัด พิธีดังกล่าวจัดขค้น ณ บริเวณหน้าอาคารสำนักงาน Sitr Office โรงกลั่นไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกีด (มหาชน) กล่าวว่า "บริษัทฯ ผู้บริหารและพนักงานมีความยินดีและมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการของธุรกิจทั้งสองธุรกิจในวันนี้ ซึ่งถือเป็นวันครบรอบ 55 ปี ของการก่อตั้งโรงกลั่นไทยออยล์อันเป็นที่ประจักษ์ถึงการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ โดยการมุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ (Core Business) นั้นเป็นหนึ่งกลยุทธ์ของเครือไทยออยล์ เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์และลดความผันผวนของการดำเนินธุรกิจ โดยโครงการผลิตสาร Linear Alkyl Benzene (LAB) และโครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก 2 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการต่อยอดธุรกิจเครือไทยออยล์ ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว"
เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ในปี 2556 บริษัทฯ โดยบริษัท ไทยพาราไซลีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือไทยออยล์ ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ได้จับมือกับบริษัท มิตซุย แอนด์คัมปนี จำกัด (มิตซุย) ซึ่งเป็นบริษัท Trading ชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีเครือข่ายการค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น และเป็นรายใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัวบริษัทร่วมทุน ในนามบริษัท ลาบิกซ์ จำกัด เป็นผู้ผลิตสาร LAB ด้วยนวัตกรรมล่าสุดของ UOP ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยที่สุดในโลกและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดย บจ.ไทยพาราไซลีน ถือหุ้น 75% และมิตซุย ถือหุ้น 25%

โรงงานผลิตสาร LAB เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนสิงหาคม 2556 การก่อสร้างโรงงานแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2558 นับเป็นโครงการผลิตสาร LAB รายแรกของประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการนำเข้าสาร LAB จากต่างประเทศ ถึง 3,500 - 4,000 ล้านบาทต่อปีแล้ว ยังสร้างรายำด้ให้กับประเทศไทยได้ถึง 6,000 ล้านบาทต่อปี ช่วยสร้างงานและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้แก่ชุมชน สาร LAB เป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและสารซักล้าง ด้วยเงินลงทุนกว่า 12,000 ล้านบาท จัดเป็นโครงการผลิตสาร LAB รายแรกและรายเดียวของประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่ง มีกำลังการผลิต 100,000 ตันต่อปี โดยได้ทำการผลิตเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา

โครงการผลิตสาร LAB นี้ มีการทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียจาก 14 ชุมชนรอบพื้นที่โครงการอย่างเป็นทางการตามกฎหมายเรียบร้อยแล้วเมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา รวมทั้งรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการก็ได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการเรียบร้อยแล้ว

โรงงานดังกล่าวตั้งอยู่ในบริเวณโรงกลั่นไทยออยล์ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ของประเทศ เนื่องจากสามารถขนส่งสินค้าได้ทั้งทางทะเล และทางรถยนต์ ทำให้บริษัทสามารถขนส่งผลิตภัณฑ์ไปยังลูกค้าตามภูมิภาคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

นายอธิคม เติบศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า "โครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็กโครงการที่ 1 และ 2 ของบริษัท ท็อป เอสพีพี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือไทยออยล์ นอกจากจะช่วยสนับสนุนความมั่นคงและเสถียรภาพในการผลิตให้กับบริษัทในเครือไทยออยล์ทั้งในปัจจุบันและอนาคตแล้ว ยังมีส่วนช่วยสนับสนุนความมั่นคงด่านพลังงาน รองรับความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าของประเทศ เนื่องจากโรงไฟฟ้าทั้ง 2 โรงมีการจพหน่ายกระแสไฟฟ้าให้ กฟผ. โรงละ 90 เมกะวัตต์ และยังสามารถช่วยให้เครือไทยออยล์ประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายไฟฟ้าและไอน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต เนื่องจากโรงไฟฟ้าทั้ง 2 โรงได้รับการออกแบบด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย

โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก จำนวน 2 โครงการของ บริษัท ท็อป เอสพีพี จำกัด มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 12,000 ล้านบาท ก่อสร้างขึ้นในปี 2554 เมื่อไทยออยล์ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก ประเภทสัญญา Firm ระบบ Cogeneration ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ จำนวน 2 โครงการ โดยมีกำลังการผลิตรวม 239 เมกะวัตต์ และไอน้ำรวม 498 ตันต่อชั่วโมง โดยส่งขายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ 180 เมกะวัตต์ และใช้ในโรงกลั่นไทยออยล์และบริษัทในเครือ 59 เมกะวัตต์

โดยโรงไฟฟ้าขนาดเล็กโครงการแรกนี้มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 124 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 353 ตันต่อชั่วโมง ส่วนโรงไฟฟ้าขนาดเล็กโครงกรที่สอง มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 115 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 145 ตันต่อชั่วโมง โดยมีกำหนดวันเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้า (COD) 1 เมษายน 2559 และ 1 มิถุนายน 2559 ตามลำดับ จัดเป็นธุรกิจที่สร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าและรายได้อย่างต่อเนื่องให้แก่เครทอไทยออยล์"

นายทาคุ โมริโมตะ กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจเพอฟอร์แมนซ์ แมททีเรียล บริษัท มิตซุยแอนด์คัมปนี จำกัด กล่าวว่า "สาร LAB ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผงซักฟอกและสารซักล้างโดยอุปสงค์ของผงซักฟอกและสาร LAB ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการเพิ่มขึ้นของประชากร นอกจากนั้น โรงงานผลิต LAB เป็นโรงงานที่มีการเชื่อมต่อกับโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ (Fully integrated) จึงถือเป็นโรงงานผลิตสาร LAB รายแรกและรายเดียวในภูมิภาคฯ ที่ดำเนินการผลิตสาร LAB อย่างครบวงจร มีการใช้วัตถุดิบจากโรงกลั่นที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน รวมถึงเป็นการผลิตภายในประเทศเพื่อใช้สำหรับอุตสาหกรรมภายในประเทศ ทำให้ลักษณะการประกอบกิจการมีความสามารถในการแข่งขันที่สูง ทั้งยังได้รับการขับเคลื่อนจากพันธมิตรที่แข็งแกร่ง โดยทางด้านการปฏิบัติการจากไทยออยล์ และด้านการตลาดจากมิตซุยแอนด์คัมปนี ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการตลาด LAB เป็นอย่างดี จุดแข็งในด้านการผลิตของเครือไทยออยล์ และเครือข่ายการตลาดที่เข้มแข็งของมิตซุยจึงเป็นส่วนเสริมซึ่งกันและกัน จึงมั่นใจได้ว่า บจ.ลาบิกซ์ จะเป็นบริษัทที่มีความได้เปรียบและมีความเข้มแข็งทางธุรกิจ"

หนังสือพิมพ์รวมพลัง | รวมพลัง ทีวี

เขียนโดย Admin เวลา 13:53:00. หมวดหมู่ , . แจ้งข่าวสาร / ร้องทุกข์ หรือต้องการติดต่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ คลิกที่นี่

สนับสนุนข่าวโดย ท่าเรือLCB ฮักเกอร์ Makro paitoon สโมสรโรตารี ไทยออยล์ ปตท. SCG